ศัลยกรรมจมูกด้วยซิลิโคน (ชนิดเหลา)

ศัลยกรรมเสริมจมูกเป็นศัลยกรรมยอดฮิตหรือเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปเป็นอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันรูปทรงจมูกที่นิยมเพื่อให้เหมาะกับใบหน้าของตนเองนั้น แพทย์ผู้ผ่าตัดจะทำการดีไซน์รูปทรงและวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อให้ได้รูปจมูกที่สวยงาม เหมาะกับใบหน้า

เสริมจมูกด้วยซิลิโคนชนิดเหลา (Customize Design)

สำหรับการเสริมจมูกด้วยการใช้ซิลิโคนแบบเหลาชนิดเคสต่อเคสคือการออกแบบรูปทรงซิลิโคนเพื่อให้ได้สัดส่วนของรูปจมูกของแต่ละบุคคลทั้งนี แพทย์ผู้ผ่าตัดจะทำการประเมินหรือวัดรูปทรงจมูกของคนไข้

เพื่อให้ได้รูปทรงและสัดส่วนของใบหน้าพร้อมเคิร์ฟจมูกที่สวยงาม และนำรูปทรงจมูกนี้มาเหลาด้วยวัสดุซิลิโคน (USA Silicone) ซึ่งวัสดุนี้เป็นซิลิโคนมาตราฐานพิเศษและมีความปลอดภัยสูงพร้อมทั้งคุณภาพดี

เนื้อซิลิโคนเป็นสีขาวเนียนละเอียด ตัวเนื้อซิลิโคนมีความนิ่มปานกลาง ซึ่งทำให้การดีไซน์รูปทรงได้ตามความต้องการ และมีความยืดหยุ่นสูง

การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมจมูกด้วยซิลิโคน (ชนิดเหลา)

งดใช้เครื่องสำอางค์ใดๆในบริเวณใบหน้า อันจะทำให้สกปรก ยากแก่การเช็ดออกก่อนผ่าตัด ตลอดจนเป็นบ่อเกิดการติดเชื้อโรคได้
งดรับประทานวิตามินอี กลุ่มยาห้ามเลือด ยาลดการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน ควรหยุดรับประทาน 7-10 วัน เพราะอาจเป็นเหตุให้เลือดออกง่าย และออกมากกว่าปกติ
สระผมให้สะอาดก่อนมาผ่าตัด เพราะอาจจะสระผมไม่สะดวกในวันแรกๆหลังผ่าตัด
งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์และหลังผ่าตัด 4 อาทิตย์

ขั้นตอนการเสริมจมูก

ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการผ่าตัด และโพรงจมูก
ฉีดยาชาจะไม่รู้สึกเจ็บให้ยาชาเฉพาะที่บริเวณปีกจมูก
แพทย์ใช้เวลาในการผ่าตัดโดยประมาณ 45 นาที หลังการผ่าตัดก็ให้นอนพักประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อประคบผ้าเย็นและตรวจดูอาการหลังผ่าตัดจึงกลับบ้านได้

ระยะเวลาในการผ่าตัด : 30-60 นาที

ลักษณะแผลผ่าตัด : แผลทั้งหมดจะถูกซ่อนไว้อยู่ด้านใดด้านหนึ่งของรูจมูกซึ่งจะไม่สามารถมองเห็นจากด้านนอกได้

ระยะเวลาในการตัดไหม : หลังผ่าตัด 7 วัน

การดูแลรักษาหลังเสริมจมูก

หลังการผ่าตัดเสริมจมูกคนไข้สามารถกลับบ้านได้ทันทีแต่ควรหลีกเลี่ยงการขับรถกลับเอง
12 ชั่วโมงแรก ควรมีการประคบเย็นบ่อยครั้งที่ดั้งจมูก
คนไข้อาจมีอาการบวมที่ใบหน้าในช่วงวันแรกๆ และอาจเจ็บแผลเล็กน้อย ควรนอนหนุนหมอนสูง
คนไข้อาจรู้สึกคัดจมูก มีเลือดออกบริเวณแผลรอบดวงตาอาจมีรอยช้ำแต่มักหายเองตามธรรมชาติ
ทานยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อระงับอาการปวดได้ดี
คนไข้สามารถทำงานได้ตามปกติหลังผ่าตัดแล้ว 1 สัปดาห์
ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงในช่วงระยะ 2 สัปดาห์แรก
ไม่ควรสั่งน้ำมูก หลีกเลี่ยงแสงแดด งดทานอาหารรสจัดรักษาบริเวณแผลให้แห้งสะอาดอยู่เสมอ
หากมีอาการผิดปกติควรแจ้งแพทย์ทันที